หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

ณ ป้ายรถเมล์

ไอ้ขวดหนุ่มช่างกลหน้าโหด...ยืนมองนาฬิกาข้อมือเป็นรอบที่ร้อย เมื่อเวลาปาเข้าไป เกือบแปดโมงครึ่ง ก็ไม่มีวี่แววของคนที่มันมายืนคอย..... 

ก็ทุกวัน เลทสุดมันหกโมงครึ่งนี่หว่า ทำไมวันนี้ถึงได้มาช้าจังเลยนะ 
หน้าโหด ๆ ของไอ้ขวด ยิ่งโหดหนักขึ้นอีก เพราะเกิดความหงุดหงิด มาก ถึงมากที่สุด 
น้องน่ารักทำไมยังไม่มาวะ ไม่ไปเรียนหรือไงกัน ที่จริงป่านนี้ต้องมายืนรอรถเมล์แล้วนะ ไม่สบายหรือเปล่า หรือว่า จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว.....โอ้ยยยยยยยยยยย ยิ่งคิดยิ่งเครียด ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม 
ใครจะรู้ว่าคนหน้าตาเหมือนเพิ่งกลับมาจากเรือนจำบางขวาง อย่างไอ้ขวด เป็นพวกชอบอะไรน่ารัก น่ารัก 

นับตั้งแต่วันนั้นที่เห็นน้องน่ารักที่ป้ายรถเมล์ ในสภาพเอาหนังสือบังฝนที่หยดลงบนหน้าขาว ๆ ใส ๆ ในขณะที่ไอ้ขวด ยืนทำหน้าตาเลว ๆ อยู่ข้าง ๆ น้องน่ารักต้องรีบขอโทษขอโพยเพราะเหมือนกับว่าไปยืนเกะกะให้ไอ้ขวดต้องเปียกฝน หน้าที่ดูเครียดขมึงน่ากลัว ยิ่งเครียดหนัก มือเย็นเฉียบ จ้องมองน้องน่ารักอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ในใจกลับสั่นและเต้นระทึก มือเย็นเฉียบ ตื่นเต้นจนแทบบ้า 
น่ารักโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทำไมแม่งน่ารักอย่างนี้วะเนี่ย..... 
หน้าของไอ้ขวด ยังคงเครียดถมึงทึง เหมือนอยากจะหาเรื่องกับ นักศึกษาหนุ่ม ร่างโปร่งบาง ที่สวมกรอบแว่นหนาสภาพเด็กเรียนสุด ๆ ที่ยืนตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว 
วันนั้น น้องน่ารัก ขึ้นรถเมล์ไปในสภาพที่เหมือนกำลังถูกฆาตกรโรคจิต ดักทำร้าย 
แต่หลังจากนั้นทุก ๆ วัน 
นายขวด ที่มีใบหน้าประดุจดั่งเพิ่งออกจากเรือนจำบางขวาง ก็ได้พบน้องแว่นน่ารักคนนั้นทุกวัน แม้น้องเขาจะไม่อยากพบกับไอ้ขวดสักเท่าไหร่ก็เถอะ 
ทุกวันไอ้ขวดยังทำท่าทางน่ากลัวเหมือนเดิม 
และขึ้นรถเมล์คันเดียวกับน้องแว่นน่ารัก ที่มันชิงตั้งชื่อ ให้เขาไปซะเรียบร้อยแล้ว 
เป็นความเคยชินที่ไอ้ขวดต้องตื่นแต่เช้าเพื่อขึ้นรถเมล์ไปเรียนพร้อมน้องน่ารักทุกวัน น้องเขาคงไม่รู้ 
ว่ามีนักโทษเรือนจำ แอบปิ๊ง จะจีบก็จีบไม่ได้ เพราะยังไงซะ..........น้องเขาก็เป็นผู้ชาย........... 
คิดไปคิดมาไอ้ขวดก็ยืนยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงน้องแว่นน่ารักคนนั้น ในสภาพเหมือนแสยะยิ้ม แลดูน่ากลัวเป็นที่สุด จนคนรอบข้างขนหัวลุก ก่อนจะทำหน้าเศร้า เมื่อเหลือบมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าปาเข้าไปจะเก้าโมงแล้ว 
น้องเขาคงไม่มา 
“เฮ้อ......เป็นอะไรหรือเปล่าวะ....ทำไมวันนี้ไม่มาวะเนี่ย...เฮ่อ..” 
เสียงถอนหายใจของปิศาจร้าย ยิ่งทำให้คนรอบข้างหวาดผวา สุดท้ายเมื่อดวงตาที่แสดงถึงความอาฆาตน่าหวาดกลัว เหลียวมองไปรอบ ๆ ตัว เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อจะมองหาน้องแว่นน่ารักคนนั้น ก่อนจะหันกลับมาอย่างท้อใจ จะเรียนรู้เรื่องได้ยังไง ถ้าไม่เห็นหน้า ตายแน่ ๆ เลยไอ้ขวดเอ้ย 
ร่างสูง ๆ มองเห็นรถเมล์แล่นมาไกล ๆ แล้วก็ถอนใจซ้ำอีกครั้ง อย่างท้อแท้ 
รู้แน่ว่าไม่ว่ายังไง ก็คงไม่ได้เจอ แค่คิดก็เศร้า 
น้องเขาคงไม่คิดอยากเจอมันเท่าไหร่นักหรอก ก็ดูท่าทางเขาหวาดกลัวจะตาย ยิ่งเวลาเห็นหน้าไอ้ขวดแล้วน้องเขาจะทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมือนอยากหนีไปให้ไกล ๆ 

นายขวด ผู้มีใบหน้าเหมือนอาชญากร กำลังจะก้าวขึ้นรถเมล์ด้วยจิตใจห่อเหี่ยว และต้อแต้ 
แต่เมื่อหันกลับมามองอีกครั้ง 
ก็เห็นใครคนหนึ่งที่วิ่งมาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ พร้อมกับหนังสือเล่มหนาอีกหลายเล่ม 
น้องแว่นน่ารัก....... 
ไอ้ขวดยืนจ้องตาไม่กระพริบ และยิ้มออกมาเหมือนลืมตัว 
ก่อนจะต้องกลับไปอยู่ในสภาพเดิม ที่ต้องทำเหมือนคนทั่วไป คือไม่เคยรู้จักไ ม่ได้สนใจกันเหมือนคนที่เดินขวักไขว่ไปมา และตั้งท่าจะก้าวขึ้นรถเมล์ไปด้วยจิตใจที่เปี่ยมสุข ได้เห็นหน้าแล้ว ได้เห็นหน้าแล้ว ดีใจจังเว้ยน้องเขาก็ยังน่ารักเหมือนทุกวันนะเนี่ย แต่น้องเขาคงไม่รู้ว่าไอ้เด็กช่างกลน่าโหดอย่างมันมายืนคอย แค่คิดก็ท้อแล้ว เฮ่อออออออออออออออ เศร้าหัวจายจริงหนอ 
ได้ขวดทำหน้าโหดร้ายแต่ในใจหมองเศร้า เมื่อคิดได้ว่าคงไม่มีทางสมหวัง จังหวะที่กำลังจะก้าวก็เหมือนได้ยินเสียงของคนที่กำลังจะก้าวตามขึ้นมา 
แต่ก็ต้องหันกลับมาด้วยความรู้สึกที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก 
เมื่อคนที่ก้าวตามหลังขึ้นมาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบนั้นเอ่ยบอก แทบไม่ได้ยินเสียง 
“ขอโทษครับ........วันนี้ผมตื่นสาย....” 
ไอ้ขวดหันกลับมามองน้องน่ารักที่ขึ้นไปยืนโหนรถเมล์ด้วยกัน ร่างกายชาวูบ ปั้นหน้าไม่ถูกไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี น้องแว่นน่ารัก..............พูดกับ....กูช่ายม้ายยยยยยยยยยยย ไอ้ขวดยืนอึ้งเหมือนคนบ้า ไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไงรู้แต่ว่าดีใจ ดีใจมาก ดีใจจนบอไม่ถูก 
หน้าที่โหด ๆ หันมาแสยะยิ้มให้กับน้องแว่นน่ารัก เหมือนคนละเมอ และจ้องมองน้องแว่นน่ารักอย่างดีใจโคตร ๆ 
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว.........” 
นั่นคือประโยคสนทนาครั้งแรกของไอ้ขวด และน้องแว่นน่ารักคนนั้น 
น้องแว่นยิ้มเขิน ๆ ก้มหน้าก้มตามองพื้น ในขณะที่ไอ้ขวด แทบอยากจะเอาหัวไปโขกกับพนักเก้าอี้รถเมล์ด้วยความอาย ไม่รู้จะทำยังไงให้หายเขิน ต่างคนต่างเขินต่างคนต่างอาย 
และแล้ว ตำนานรัก ณ ป้ายรถเมล์ ก็เริ่มขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น